ฟ้าจางที่มัณฑเลย์การเดินทางสู่พม่า ครั้งสำคัญ ตอนที่ 6
ฟ้าจางที่มัณฑเลย์การเดินทางสู่พม่า ครั้งสำคัญ ตอนที่ 6
เราพูดถึงเรื่อง วันที่31วนไปวนมา2-3รอบแล้วครับ วันนี้เราจะเข้าเรื่องเลยหล่ะกัน
มีคนถามว่า ไปไกลทำไมต้องที่โปปา?
ผมตอบเสียงดังและยืนยันคำเดิมครับว่า เราไปในโครงการเสกพระของชมรม เพราะโปปาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อของชาวพม่า และอยู่กึ่งกลางของประเทศพม่า เลยเชียวแหละ สมัยโบราณใช้เป็นจุดศูนย์กลาง ในการวัดระยะประเทศของพม่า เพื่อกำหนดจุดศูนย์กลาง
คุณเชื่อไหมว่า เคยมีประวัติศาตร์ว่าครั้งหนึ่งบริเวณนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ของผู้สำเร็จต่างๆ จนทุกวันนี้มีลูกหลานของผู้สำเร็จตั้งรกรากบ้านเรือนอยู่รอบเขาโปปาแห่งนี้นับไม่ถ้วน
รวมกระทั้งทายาทของบุคคลสำคัญเช่น
ท่านโพ่หมิ่นเข่าก์ ก็อยู่หมู่บ้านนี้ ครับ ลืมขอถ่ายรูป
ทำไมไม่เสกที่เมืองไทย?
(ปัญหาเยอะนักนะมึงขอแอบด่าหน่อย😆😂)
ผมให้เหตุผลว่า เมืองไทยก็เสกครับแต่เป็นวาระสุดท้าย ทางเขาโปปาแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดครับและเป็นต้นสายนิกายสำคัญๆของพม่าที่เกี่ยวกับมหาว่านยา
แต่ไม่ทุกนิกายครับแค่ส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น นิกายปถมะสิทธิ(ปะถะมัม)เป็นต้น เกิดที่โปปานี้
หรือนิกายเอ๊กสะตะยะก็เกิดที่นี่ครับ
เว้นแต่สายนิกายเอ๊กสะตะยะแบบดั้งเดิม(เก่า)
จุดกำเนิดเกิดอีกที่หนึ่ง คือเมืองประกัน ที่พุกามครับ
ส่วนและนิกายที่ไม่ได้เกิดที่นี่ก็เช่นสาย
มะหน่อเสขตุมปัต(มะหน่อเส้กไกร์)
จุดที่กำเนิดเกิดที่ เมืองพะโคะ นู้น !
เกลือบถึงย่างกุ้งครับ
ผมออกเสียงถูกนะ (ม่ะหน่อเสขตุมปั๊ต)
ไม่ใช่ (ม่ะหน่อจีตุมปั๊ต)××××
รวมกระทั้งกับอะยีไกร์ဂိုဏ်းဂိုဏ်း
หรือเย๊ะเต๊ธัสสาไกร์ ရသေ့ဘာသာဂိုဏ်း นิกายของโปด่อปิว ก็ก็ไม่ได้เกี่ยวกับโปปาเลยแม้แต่น้อยครับ นู้น!!!!อยู่ มอญนู้น ครับ
ไม่เกี่ยวบอกตรงๆ
แต่ที่เกี่ยวมีอย่างเดียวครับ คือมาเอาตัวยาสมุนไพรที่โปปานี่แหล่ะครับ และประกอบปรุงมหาว่านยา ณ.ที่โปปา เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
ทุกนิกายถ้ามีปัญญามานะ ดีเสียด้วย
เลยกล้าบอกว่ามาแทบทุกนิกาย(ဂိုဏ်း)ปรุงยาแล้วก็จากไป
ตรงๆนะครับแทบจะทุกนิกาย เว้นแต่ไกลๆ มาไม่ไหว ไม่มีกำลังทรัพย์ก็จะไปเอาสถานที่ทางศาสนาหรือที่วัดวาอารามใกล้บ้าน บ้างก็ทำที่สำนักเลย
มีวันสำคัญทางศาสนาครับจะประกอบพิธีปรุงยากัน
วันนั้นจะพบเห็นหลายสายนิกายเลยที่รวมตัวกันมาแบบมืดฟ้ามัวดิน มันยิ่งใหญ่มากครับ ไม่ใช่เล่นๆ
วันนั้นเราคงโดนเบียดออกจากสาระบบโปปาแน่นอน เราเลยเลือกวันต้นเดือน๗ ตามปฏิทินโบราณจันทรคติไปเสกยา ย้ำนะครับเสกยาที่ปรุงยาไม่ได้มาปรุงยา
(ในตำนานเล่าว่า ณ.สถานที่ตรงนี้เรียกว่า
นัตเส่ต่อง န်ဆေးတောင် (ที่ทำยาของเทวดา)
รวมทั้งกายสิทธิ์อย่างเช่นซอจี(ซอคยี)อีกด้วย เชื่อกันว่าเหล่านัตทั้งปวงจะมาทำยาณ.จุดๆนี้ โดยเก็บดอกไม้และยาสมุนไพรบนเขาโปปา มาฝนและปั้นยาณ.ที่ตรงนี้ ในวันออกพรรษาเลยเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เหล่าสายเวทย์แสวงบุญมาทำยากันในช่วงออกพรรษาณ.เขาโปปาโดยใช้ตำหรับยาสมุนไพรตามสูตรหลักการแพทย์ ไม่ใช่ไปเก็บอย่างในตำนาน แต่ตำนานคือตำนาน ที่เป็นมูลเหตุให้เหล่าสายเวทย์ทุกแขวงรวมตัวกัน มา ณ.ตรงนี้อย่างมีเหตุผล)
ที่ผมนำไปเสกนี้ เรียกว่ารับยาจากครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ทำที่มอญ เอามาเสกที่โปปาเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ท่านว่าไม่ผิดกติกาเพราะสมัยโบราณทำแบบนี้ และควรทำเช่นนี้อีกด้วย
**โปปาไม่ได้อยู่ในพุกามเพียงแค่ติดๆกับพุกามครับเป็นชายแดนของมัณฑเลย์
เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ กำลังจะลงให้ชมครับ ในตอนหน้า*
เราพูดถึงเรื่อง วันที่31วนไปวนมา2-3รอบแล้วครับ วันนี้เราจะเข้าเรื่องเลยหล่ะกัน
มีคนถามว่า ไปไกลทำไมต้องที่โปปา?
ผมตอบเสียงดังและยืนยันคำเดิมครับว่า เราไปในโครงการเสกพระของชมรม เพราะโปปาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อของชาวพม่า และอยู่กึ่งกลางของประเทศพม่า เลยเชียวแหละ สมัยโบราณใช้เป็นจุดศูนย์กลาง ในการวัดระยะประเทศของพม่า เพื่อกำหนดจุดศูนย์กลาง
![]() |
กะด้วยสายตาคร่าวๆจากกรูเกิ้ลแมพ ยอมรับรับเลยว่า อยู่กึ่งกลางจริงๆ |
คุณเชื่อไหมว่า เคยมีประวัติศาตร์ว่าครั้งหนึ่งบริเวณนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ของผู้สำเร็จต่างๆ จนทุกวันนี้มีลูกหลานของผู้สำเร็จตั้งรกรากบ้านเรือนอยู่รอบเขาโปปาแห่งนี้นับไม่ถ้วน
![]() |
พระอาจารย์ผู้ร่วมเดินทาง มาช่วยสาธยายมนต์เสกพระ ให้บนเขาโปปา |
รวมกระทั้งทายาทของบุคคลสำคัญเช่น
ท่านโพ่หมิ่นเข่าก์ ก็อยู่หมู่บ้านนี้ ครับ ลืมขอถ่ายรูป
ทำไมไม่เสกที่เมืองไทย?
(ปัญหาเยอะนักนะมึงขอแอบด่าหน่อย😆😂)
ผมให้เหตุผลว่า เมืองไทยก็เสกครับแต่เป็นวาระสุดท้าย ทางเขาโปปาแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดครับและเป็นต้นสายนิกายสำคัญๆของพม่าที่เกี่ยวกับมหาว่านยา
แต่ไม่ทุกนิกายครับแค่ส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น นิกายปถมะสิทธิ(ปะถะมัม)เป็นต้น เกิดที่โปปานี้
หรือนิกายเอ๊กสะตะยะก็เกิดที่นี่ครับ
เว้นแต่สายนิกายเอ๊กสะตะยะแบบดั้งเดิม(เก่า)
จุดกำเนิดเกิดอีกที่หนึ่ง คือเมืองประกัน ที่พุกามครับ
ส่วนและนิกายที่ไม่ได้เกิดที่นี่ก็เช่นสาย
มะหน่อเสขตุมปัต(มะหน่อเส้กไกร์)
จุดที่กำเนิดเกิดที่ เมืองพะโคะ นู้น !
เกลือบถึงย่างกุ้งครับ
ผมออกเสียงถูกนะ (ม่ะหน่อเสขตุมปั๊ต)
ไม่ใช่ (ม่ะหน่อจีตุมปั๊ต)××××
รวมกระทั้งกับอะยีไกร์ဂိုဏ်းဂိုဏ်း
หรือเย๊ะเต๊ธัสสาไกร์ ရသေ့ဘာသာဂိုဏ်း นิกายของโปด่อปิว ก็ก็ไม่ได้เกี่ยวกับโปปาเลยแม้แต่น้อยครับ นู้น!!!!อยู่ มอญนู้น ครับ
ไม่เกี่ยวบอกตรงๆ
แต่ที่เกี่ยวมีอย่างเดียวครับ คือมาเอาตัวยาสมุนไพรที่โปปานี่แหล่ะครับ และประกอบปรุงมหาว่านยา ณ.ที่โปปา เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
ทุกนิกายถ้ามีปัญญามานะ ดีเสียด้วย
เลยกล้าบอกว่ามาแทบทุกนิกาย(ဂိုဏ်း)ปรุงยาแล้วก็จากไป
ตรงๆนะครับแทบจะทุกนิกาย เว้นแต่ไกลๆ มาไม่ไหว ไม่มีกำลังทรัพย์ก็จะไปเอาสถานที่ทางศาสนาหรือที่วัดวาอารามใกล้บ้าน บ้างก็ทำที่สำนักเลย
มีวันสำคัญทางศาสนาครับจะประกอบพิธีปรุงยากัน
วันนั้นจะพบเห็นหลายสายนิกายเลยที่รวมตัวกันมาแบบมืดฟ้ามัวดิน มันยิ่งใหญ่มากครับ ไม่ใช่เล่นๆ
วันนั้นเราคงโดนเบียดออกจากสาระบบโปปาแน่นอน เราเลยเลือกวันต้นเดือน๗ ตามปฏิทินโบราณจันทรคติไปเสกยา ย้ำนะครับเสกยาที่ปรุงยาไม่ได้มาปรุงยา
(ในตำนานเล่าว่า ณ.สถานที่ตรงนี้เรียกว่า
นัตเส่ต่อง န်ဆေးတောင် (ที่ทำยาของเทวดา)
รวมทั้งกายสิทธิ์อย่างเช่นซอจี(ซอคยี)อีกด้วย เชื่อกันว่าเหล่านัตทั้งปวงจะมาทำยาณ.จุดๆนี้ โดยเก็บดอกไม้และยาสมุนไพรบนเขาโปปา มาฝนและปั้นยาณ.ที่ตรงนี้ ในวันออกพรรษาเลยเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เหล่าสายเวทย์แสวงบุญมาทำยากันในช่วงออกพรรษาณ.เขาโปปาโดยใช้ตำหรับยาสมุนไพรตามสูตรหลักการแพทย์ ไม่ใช่ไปเก็บอย่างในตำนาน แต่ตำนานคือตำนาน ที่เป็นมูลเหตุให้เหล่าสายเวทย์ทุกแขวงรวมตัวกัน มา ณ.ตรงนี้อย่างมีเหตุผล)
สถานที่ตรงนี้ ใช้ฝนยากันมาเป็นพันๆปีแล้วนะครับ ศักดิ์สิทธิ์มากๆ
ภาพซอจีทำเม็ดยาสำเร็จครับ
บางก็ว่าถิอของสำคัญคือปรอทสำเร็จเตรียมปรุงยาที่เก็บบนเขาโปปามาชุบเม็ดปรอท
ภาพเก่าครับ ภาพซอจีทำยาวิเศษ
โดยเก็บจากเขาโปปานี้แหล่ะ
ที่ผมนำไปเสกนี้ เรียกว่ารับยาจากครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ทำที่มอญ เอามาเสกที่โปปาเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ท่านว่าไม่ผิดกติกาเพราะสมัยโบราณทำแบบนี้ และควรทำเช่นนี้อีกด้วย
**โปปาไม่ได้อยู่ในพุกามเพียงแค่ติดๆกับพุกามครับเป็นชายแดนของมัณฑเลย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น