ที่มาของบรมครูไสยศาสตร์แห่งเมืองม่าน โปด่อปิว
บรมครู โป่ด่อปิวคือใคร เชื่อว่าแทบไม่มีใครกล้ากล่าวถึง เพราะไม่มีประวัติที่แน่ชัดมากมายนัก
หากเทียบกับอาจารย์ของท่านคือโพ่โพ่อ่องบอกได้คำเดียวว่า เยอะแยะมากมายเลยทีเดียวเชียว
ผมลองเช็คแล้วหล่ะครับ หนังสือทุกฉบับ ที่เอาสายวิชาบรมครูท่านมากล่าวถึง แทบไม่มีประวัติที่ลึกซึ้งอะไรมากมาย ไม่มีที่ไปที่มา ผมเชื่อครับว่าความจริงมีอะไรมากมายกว่านั้น อีกที่ไม่กล่าวถึง โพ่ด่อปิว
ผมว่าที่ประสิทธิเมนี่จะเป็นที่แรก นะครับ ที่เอาประวัติท่านมาเล่า ก่อนใครแม้แต่จะมาทีหลังก็เหอะนะ
ในเรื่องวิชาสายอาคมไสยศาสตร์ของเมืองพม่า
เรียกว่า "เว๊กส่า" หรือ"ปิงญา" ที่แปลว่าความรู้อันสูงสุด เพราะทั้งสองคำนี้ แบบว่าความรู้นั่นเอง ในวิชาที่กล่าวมานี้ มีแตกแขนงอีกหลายสายมากมาย
วันนี้เราจะมาพูดถึงวิชาที่มีบรมครูท่านหนึ่ง เป็นนักบวชประเภทนี้ด้วย คือท่าน "โปด่อปิว"
ท่านเป็นนักบวชในนิกายอะยี หรือ อะรี/อะเยจี ในประเทศพม่าครับ
เช้าวันหนึ่งที่ผมเดินทางไปเที่ยวยังพระธาตุอินแขวน(ไจ๊ทีโย๊) นั้น กลับสะดุดตากับฤาษีที่ออกมาบิณฑบาตรปะปนกับพระสงฆ์รอบๆพระเจดีย์ที่สำคัญในครั้งนั้น
ภายหลังมาจงทราบว่าท่านคือพระสงฆ์นิกายหนึ่งของพม่าโบราณ มาตั้งแต่ยุคที่บรรพบุรุษต้นสายของชาวพม่าเรียกว่า เผ่า ปะยู อันมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เรียกว่าศรีเกษตรที่องค์การยูเนสโก้จดบันทึกเป็นสมบัติของโลกแล้วด้วย
ชาวพม่านั้น เชื่อว่าเป็นต้นบรรพชนของชาวพม่านั่นเอง นี่คือจุดที่นักบวชที่เรียกว่าอะยีเกิดขึ้นพร้อมกับอาณาจักร์ศรีเกษตรของเผ่าปะยู
แล้วโชคร้าย คือโดนกวาดล้างในยุคของพระเจ้าอโนรธามังช่อจนแทบหมดสิ้น
นับว่าเก่งเลยที่เดียวที่จะรักษาความเชื่อของตนจนรอดพ้นจากการกวาดล้างมาจนหลงเหลือให้พบเห็นกันในปัจจุบันนี้
พ่อครูโปด่อปิวนั้น เชื่อกันว่า เป็นคนของชนเผ่าปะยู ที่เร่ร่อนรอนแรมเดินทางธุดงค์เรื่อยมาหลังจากอาณาจักรศรีเกษตรอันเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองล่มสลายแล้วย้ายเมืองหลวงจากนั้นไปสู่เมืองแปร (พม่าเรียกว่า ปะแย)
เลยเรียกท่านว่าพ่อครูแห่งเมืองปะยู
(โปด่อปิว)นั่นเอง
และเชื่อกันว่า นักบวชกลุ่มนี้ได้รับเกิดขึ้นในยุคศรีเกษตรของเมืองปะยูอีกด้วย
โปด่อปิว ประวัติน้อยมากในตัวท่าน เพียงแค่เชื่อกันว่าท่านเป็นชนชาวปะยู มีอายุหลังจากท่านโพโพ่อ่องและก็เป็นลูกศิษย์ของบรมครูโพ่โพ่อ่องอีกด้วย
มีปรากฏในนิทานพื้นบ้านหลายท้องถิ่นในประเทศพม่า และเป็นบุคคลที่ปรากฏประวัติของชนชาติ หรือเจ้าฟ้าและกษัตริย์ของพม่าหลายเรื่องหลายตอน
มีการปรากฏในสมุดจดบันทึกในตำนานของไสยศาตร์พม่าว่าเป็นส่วนหนึ่งของบรมครูในหลายๆสายนิกายของไสยศาสตร์พม่าอีกด้วย
โดยเริ่มต้นมาจากท่านสย่าปุ้ย(หรือโปด่อปุย) ก่อนที่จะเริ่มแตกออกเป็นสายนิกายต่างๆ จนในทุกวันมีเป็น ร้อยๆสายนิกายวิชาไสยศาตร์แห่งเมืองพม่า นั่นเอง
บทความของท่าน สย่า อูสุมิงคละ 17 พค.
หากเทียบกับอาจารย์ของท่านคือโพ่โพ่อ่องบอกได้คำเดียวว่า เยอะแยะมากมายเลยทีเดียวเชียว
ผมลองเช็คแล้วหล่ะครับ หนังสือทุกฉบับ ที่เอาสายวิชาบรมครูท่านมากล่าวถึง แทบไม่มีประวัติที่ลึกซึ้งอะไรมากมาย ไม่มีที่ไปที่มา ผมเชื่อครับว่าความจริงมีอะไรมากมายกว่านั้น อีกที่ไม่กล่าวถึง โพ่ด่อปิว
ผมว่าที่ประสิทธิเมนี่จะเป็นที่แรก นะครับ ที่เอาประวัติท่านมาเล่า ก่อนใครแม้แต่จะมาทีหลังก็เหอะนะ
![]() |
บรมครูทั้ง๓ โพ่หมิ่นข้อง โพ่โพ่อ่อง โพ่ด่อปิว
**จากซ้ายไปขวา
ขอบคุณภาพจากสำนักพ่อครูสิทธา
|
ในเรื่องวิชาสายอาคมไสยศาสตร์ของเมืองพม่า
เรียกว่า "เว๊กส่า" หรือ"ปิงญา" ที่แปลว่าความรู้อันสูงสุด เพราะทั้งสองคำนี้ แบบว่าความรู้นั่นเอง ในวิชาที่กล่าวมานี้ มีแตกแขนงอีกหลายสายมากมาย
วันนี้เราจะมาพูดถึงวิชาที่มีบรมครูท่านหนึ่ง เป็นนักบวชประเภทนี้ด้วย คือท่าน "โปด่อปิว"
ท่านเป็นนักบวชในนิกายอะยี หรือ อะรี/อะเยจี ในประเทศพม่าครับ
![]() |
นักบวชอะยี เพราะจะพบเห็น ที่พระธาตุอินทนร์แขวนครับ |
เช้าวันหนึ่งที่ผมเดินทางไปเที่ยวยังพระธาตุอินแขวน(ไจ๊ทีโย๊) นั้น กลับสะดุดตากับฤาษีที่ออกมาบิณฑบาตรปะปนกับพระสงฆ์รอบๆพระเจดีย์ที่สำคัญในครั้งนั้น
ภายหลังมาจงทราบว่าท่านคือพระสงฆ์นิกายหนึ่งของพม่าโบราณ มาตั้งแต่ยุคที่บรรพบุรุษต้นสายของชาวพม่าเรียกว่า เผ่า ปะยู อันมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เรียกว่าศรีเกษตรที่องค์การยูเนสโก้จดบันทึกเป็นสมบัติของโลกแล้วด้วย
ชาวพม่านั้น เชื่อว่าเป็นต้นบรรพชนของชาวพม่านั่นเอง นี่คือจุดที่นักบวชที่เรียกว่าอะยีเกิดขึ้นพร้อมกับอาณาจักร์ศรีเกษตรของเผ่าปะยู
แล้วโชคร้าย คือโดนกวาดล้างในยุคของพระเจ้าอโนรธามังช่อจนแทบหมดสิ้น
นับว่าเก่งเลยที่เดียวที่จะรักษาความเชื่อของตนจนรอดพ้นจากการกวาดล้างมาจนหลงเหลือให้พบเห็นกันในปัจจุบันนี้
พ่อครูโปด่อปิวนั้น เชื่อกันว่า เป็นคนของชนเผ่าปะยู ที่เร่ร่อนรอนแรมเดินทางธุดงค์เรื่อยมาหลังจากอาณาจักรศรีเกษตรอันเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองล่มสลายแล้วย้ายเมืองหลวงจากนั้นไปสู่เมืองแปร (พม่าเรียกว่า ปะแย)
![]() |
โพ่ด่อปยู (หรือโพ่ด่อปิว) |
เลยเรียกท่านว่าพ่อครูแห่งเมืองปะยู
(โปด่อปิว)นั่นเอง
และเชื่อกันว่า นักบวชกลุ่มนี้ได้รับเกิดขึ้นในยุคศรีเกษตรของเมืองปะยูอีกด้วย
โปด่อปิว ประวัติน้อยมากในตัวท่าน เพียงแค่เชื่อกันว่าท่านเป็นชนชาวปะยู มีอายุหลังจากท่านโพโพ่อ่องและก็เป็นลูกศิษย์ของบรมครูโพ่โพ่อ่องอีกด้วย
มีปรากฏในนิทานพื้นบ้านหลายท้องถิ่นในประเทศพม่า และเป็นบุคคลที่ปรากฏประวัติของชนชาติ หรือเจ้าฟ้าและกษัตริย์ของพม่าหลายเรื่องหลายตอน
![]() |
ภาพที่เคารพนับถืออีกสายวิชาหนึ่งในประเทศพม่า (ซ้าย) โปด่อห่าน (กลาง)โปด่อปิว (ขวา)โปด่อปุย |
มีการปรากฏในสมุดจดบันทึกในตำนานของไสยศาตร์พม่าว่าเป็นส่วนหนึ่งของบรมครูในหลายๆสายนิกายของไสยศาสตร์พม่าอีกด้วย
โดยเริ่มต้นมาจากท่านสย่าปุ้ย(หรือโปด่อปุย) ก่อนที่จะเริ่มแตกออกเป็นสายนิกายต่างๆ จนในทุกวันมีเป็น ร้อยๆสายนิกายวิชาไสยศาตร์แห่งเมืองพม่า นั่นเอง
บทความของท่าน สย่า อูสุมิงคละ 17 พค.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น