มหาว่านยาว่าด้วยเรื่องเส่ต่อ ตอนที่สอง
มหาว่านยาว่าด้วยเรื่องเส่ต่อ ตอนที่สอง จากที่คุยกกันในเมื่อตอนแรกว่าเส่ต่อ เส่ต่อคืออะไร
พูดกันสนุกๆ เอาไม้ฟาดที่ปากโอ่งเลย ก็คือมหาว่านยา มีคำเรียกอยู่หลายคำครับ เช่น เส่ต่อ - เส่ต่อจี ปิงญาเส่ - เว๊กส่าเส่ - เส่ด่อไกร์ - เส่ด่อจี
ภาษาพม่าคือคำว่า ဆေးတော်
ในคำว่า"เส่" ဆေး นี่แปลตรง คือคำว่า"ยา"
*คำนี้คำเดียวห้ามใช้ครับเพร่ะจะกลายเป็นคำว่ายาเสพติดทันที
แต่มหาว่านยาคือยาสมุนไพรครับ ผมจะแยกออกเป็นส่วนๆ ที่ละคำหล่ะกัน
![]() |
มหาว่านยาที่ในภาษาพม่าเรียกว่า.ဆေးတော် |
มหา แปลว่า ยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม สุดยอด
ว่านยา แยกออกทีละคำคือคำว่า"ว่าน"ก่อน ว่านคือหัวใจหลักที่ใช้ในการประกอบสมุนไพรต่างๆ ที่เรียกว่ายา
![]() |
เส่ต่อဆေးတော် ที่ปะกอบด้วย โถชาดปะดา และเข็มสีกแบบพม่า |
ส่วนยาในที่นี่ก็คือสมุนไพรที่มีส่วนประกอบจาก วัตถุ ๓ ประการ คือ
๑.พืชวัตถุ อันมีส่วนประกอบมาจากพืชเป็นหลักครับ
๒.สัตว์วัตถุ ที่มีส่วนประกอบจากสัตว์ต่างๆ เช่น เขา เขี้ยว ทศโลหิต เป็นต้น
๓. คือธาตุวัตถุ อันมาจากแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น หิน ดิน กรวด เป็นต้น
หลักการปรุงยาแผนโบราณ ไม่ว่าจะมาจาก ไทยไปพม่าก็มีหลักการคล้ายๆกัน ไม่ได้ผิดเพี้ยนเลย
![]() |
ชุดที่ใช้ในการประกอบพิธีสักยันต์แบบไสยศาสตร์พม่า |
แต่คำว่ามหาว่านยา คือ ยิ่งใหญ่กว่ายาทั้งปวง คือผ่านการเก็บรักษามาเป็นเวลาช้านนานมาก กลุ่มยาปางตัว มีอายุ เป็น50ปีขึ้นไป ร้อยปี สองร้อยปี สามร้อยปี ที่เก็บกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด ผ่านกาลเวลา บันทึกความทรงจำไว้หลายชั่วอายุคน ผ่านการ เคารพบูชาจากผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือใช้งานที่ต้องเคารพบูชา และสาธยายมนต์มาเป็นร้อย-พัน-หมื่น ครั้งหรือมากกว่านั้น
มหาว่านยาจึงทรงคุณค่ามากมาย ผ่านร้อนผ่านหนาว อยู่รอดมาเป็นก้อนเป็นชิ้นให้เราได้ใช้
มหาว่านยา จริงๆมีอะไรพิเศษกว่านั้นเยอะนะครับ ไม่ใช่เพียงแค่นี้เป็นของวิเศษ ที่ผ่านกาลเวลา มีส่วนในเนื้อยาที่ผ่านการสร้างจากผู้วิเศษที่สำเร็จไปอยู่อีกปรมาภพหนึ่ง
![]() |
ท่านโปด่อปิว |
![]() |
ท่านสย่าปุ้ย ผู้ให้กำเนิดสายวิชาไสยศาสต์ และภายหลังแตกแขนงเป็นสายต่างๆอีกมากมาย |
บางชิ้นเป็นยามหาวิเศษของบรมครูโพ่โพ่อ่อง บางชิ้นท่านโพ่หมิ่นข่องเป็นคนสร้าง บางชิ้นเกิดจากสมัยโบราณ ที่นานจนหาและสังเกตุไม่ได้และค้นข้อมูลต้นสายไม่เจอประวัติว่าใครเป็นผู้สร้าง
แท่นตั้งหิ้งบูชารูปบรมครูในสายวิชาไสยศาสตร์
สายหนึ่งในพม่า
สย่าทั้งปวง
![]() |
ท้าวทั้งสี่และสุระสตี |
ความน่าอภิรมย์อันน่าพิสมัยเหล่านี้ เป็นของที่มีเสน่ห์และมีมนต์ขลัง ที่สมัยโบราณผ่านการใช้งานสิ้งเหล่านี้มาจริงๆ
แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นยาพกพาในรูปของวัตถุมงคล และบางชิ้นที่มีที่มาได้กลายเป็นส่วนผสมหนึ่งในวัตถุมงคลหรือน้ำหมึกสักเพื่อสร้างความขลังให้ต่อสายวิชาที่ตนร่ำเรียนมาของอาจารย์ในแต่ละสำนัก
นั่นคือวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน และมีคุณประโยชน์มากมายกว่านั้นอีก ที่ไม่รู้จะพรรณาอธิบายได้หมด
สวัสดี อูสุมิงคละ ๒๑ พค. สวัสดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น