ประสิทธิเม

สวัสดีครับ ทุกท่าน จากที่ ผมเคยแจ้งไว้ว่า วันที่ 31พค.-6มิย. ผมจะเดินทาง ไปยังประเทศพม่า เพื่อรำลึกถึงอดีตวันวานที่เคยซาบซ่านกลิ่นนาสาเคยกระทบถึงน้ำหอมน้ำปรุงทานาคา ที่กรุ่นในจิตติดตราตรึง ไม่อาจจะลืมลงได้ นานมากแล้วที่ไม่ได้เขียนบันทึกเรื่องราวของการเดินทาง ครานี้ ผมจะไป พร้อมกับความตั้งใจ หากแต่ไม่เหมือนไปเมื่อสมัยก่อนที่ฉายเดี่ยวแบบไม่มีใครไปด้วย อิ่ม-อด ผจญมาครบถ้วน ในชีวิตต่างแดน เช่นพม่า ครานี้ปรีย์เปรมยิ่งที่ได้รับเสียงโทรศัพย์เข้ามาจากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ที่โทรมาแจ้งความประสงค์จะมุ่งตรงไปด้วย ผมตอบกลับอย่างตั้งใจ "ได้ครับ ยินดี เลย" สรุปว่าเราไปแบบไม่คาดฝันว่าจะได้ พระพี่ชายที่แสนดี บอกว่าอยากไปเที่ยว ครานี้  ไปกันพระพี่-ฤาษีน้อง การเดินทางไปหลายๆครั้งของผม กุลีกุจอกับการเร่งทำธุระ เลยแทบไม่มีเวลาถ่ายรูป หรืออัพความเลื่อนไว้ก็เพราะว่าเราไปทำธุระไงครับ ไปคนเดียว แค่เร่งกับการเดินลากกระเป๋าไปให้ทันเวลาทำธุระก็แทบจะไม่มีโอกาสจะหาเวลาที่ไหนมานั่งกดชัดเตอร์ ครานี้ เป็นครั้งที่ไปมาหลายรอบ ผมไม่ได้จำครับครั้งที่เท่าไหร่ แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าที่ตั้งใจไปแบบ...

สุระสะตี คือใคร ทำไมวงการไสยศาสตร์พม่ากล่าวถึงกันมาก ขึ้นต้นมาแต่ละที่เขียนสั้นก็ไม่ค่อยจะได้  ประหนึ่งว่าจะโดนแช่งให้ตายกันเสียกะละมัง สุระสะตีเทวีแหม่ด่อขอบคุณข้อมูลจาก อาจารย์แขก รือเสาะ สุระสะตี เป็นเจ้าแม่ครับ เป็นนัตประเภทหนึ่งของพม่าก็ไม่ผิด  เป็นครูผู้รักษาทุกตัวอักขระอักษรอันศักดิ์สิทธิ์คือพระไตรปิฏก สุระสะตี ภาษาพม่า เขียนว่า သူရဿတီ-တိပိဋကမယ်တော် อ่านว่า สุระสะตี ตรีปิฏกแหม่ด่อ พ่อครูทั้งห้าที่วิชาไสยศาสตร์พม่านับถือ สุระสะตีเทวีแหม่ด่อ  ในสายไสยศาสตร์ท่านเป็นเป็นครูครับ แถมเป็นสตรีเพศเสียด้วบ เนื่องจากท่านเป็นผู้แบ่งหน้าที่จากพรหมที่ดูแลคัมภีร์พระเวทย์ทั้งสี่ ขอมาดูแลคัมภีร์ของพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์ที่อุบัติไปแล้ว คือพระกุกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า และพระมหากัสปะพุทธเจ้า คือพระอภิธรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา พระสุระสะตีเทวีแหม่ด่อ นี่เป็นสิ่งสำคัญในสายวิชาเลยเชียวครับ เพราะท่านรักษาทุกอักขระอักษรในพระไตรปิฏกที่ถือว่าเป็นอักษรศักดิ์สิทธิ์ ในพระพุทธศาสนา เลยถือว่า ท่านเป็นความสำคัญ เลยหล่ะครับ เรื่องความจด...

มหาว่านยาว่าด้วยเรื่องเส่ต่อ ตอนที่สอง จากที่คุยกกันในเมื่อตอนแรกว่าเส่ต่อ เส่ต่อคืออะไร พูดกันสนุกๆ เอาไม้ฟาดที่ปากโอ่งเลย ก็คือมหาว่านยา มีคำเรียกอยู่หลายคำครับ เช่น เส่ต่อ - เส่ต่อจี  ปิงญาเส่ - เว๊กส่าเส่ - เส่ด่อไกร์ - เส่ด่อจี ภาษาพม่าคือคำว่า ဆေးတော် ในคำว่า"เส่" ဆေး นี่แปลตรง คือคำว่า"ยา" *คำนี้คำเดียวห้ามใช้ครับเพร่ะจะกลายเป็นคำว่ายาเสพติดทันที แต่มหาว่านยาคือยาสมุนไพรครับ ผมจะแยกออกเป็นส่วนๆ ที่ละคำหล่ะกัน มหาว่านยาที่ในภาษาพม่าเรียกว่า.ဆေးတော် มหา  แปลว่า ยิ่งใหญ่  ยอดเยี่ยม สุดยอด ว่านยา แยกออกทีละคำคือคำว่า"ว่าน"ก่อน ว่านคือหัวใจหลักที่ใช้ในการประกอบสมุนไพรต่างๆ ที่เรียกว่ายา เส่ต่อဆေးတော် ที่ปะกอบด้วย โถชาดปะดา และเข็มสีกแบบพม่า ส่วนยาในที่นี่ก็คือสมุนไพรที่มีส่วนประกอบจาก วัตถุ ๓ ประการ คือ ๑.พืชวัตถุ อันมีส่วนประกอบมาจากพืชเป็นหลักครับ ๒.สัตว์วัตถุ ที่มีส่วนประกอบจากสัตว์ต่างๆ เช่น เขา เขี้ยว ทศโลหิต เป็นต้น ๓. คือธาตุวัตถุ อันมาจากแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น หิน ดิน กรวด เป็นต้น หลักการปรุงยาแผนโบราณ ไม่ว่าจะม...

มหาว่านยาคืออะไร ทำไมผู้ทรงเวทย์ถึงไขว่คว้าเสาะหามาครอบครองกัน ที่ผมตั้งเนื้อเรื่องนี้ก็ไม่ผิด เพราะเป็นเรื่องจริงจังครับ ไม่ใช่แค่เพียงผู้ทรงเวทย์วิทยาคมเพียงอย่างเดียว แม้แต่ผู้ที่เริ่มศึกษาปฏิบัติที่เรียกว่าแค่ขั้นลูกศิษย์นับถือก็ล้วนแต่เสาะแสวงหามาครอบครองกันแล้ว ผมหมายถึงผู้รู้จริงนะครับ คนที่รู้จริงเท่านั้นเพราะอะไรนะเหรอคนไม่รู้เขาจะเอามาทำมะเขืออะไรหล่ะ ที่ที่รู้เขาเคยสัมผัสได้ ในคุณวิเศษอย่างบอกไม่ถูก   ผมใช้นิยามคำว่ามหาว่านยา คือราชาแห่งวัตถุมงคลก็ว่าได้ เพราะราคาค่อนข้างสูง เรียกว่าสูงสุดในบรรดาวัตถุมงคลที่มีบนแผ่นดินเลยเชียวแหล่ะ ไม่ใช่กระจอกงอกง่อยนะเออ เริ่มมาคุยกันดีกว่าว่า แล้ว มหาว่านยา เขาเรียกว่าอะไร ทำไมถึงเรียกว่ามหาว่านยา บอกตรงๆ เลยครับ เพราะเขาคือยา ที่ยิ่งใหญ่กว่ายา  ก็คือ ยา จริงๆ นี่แหล่ะ แต่เป็นกระบวนการของสมุนไพร โดยหลักการแพทย์แผนโบราณของพม่า สมัยโบราณที่ยังมีความเขื่อเรื่องภูตผีปีศาจ ตลอดทั้งเวทย์มนต์อาคมของพม่า อยู่นั่น ชีวิตของชุมชนที่มีอารยธรรมแบบโบราณคือมีความเชื่อ ศาสตร์ วิชาอาคม และเวทย์มนต์คาถาที่ควบคู่กันไป วิถีชีวิตที...

บรมครู โป่ด่อปิวคือใคร เชื่อว่าแทบไม่มีใครกล้ากล่าวถึง เพราะไม่มีประวัติที่แน่ชัดมากมายนัก หากเทียบกับอาจารย์ของท่านคือโพ่โพ่อ่องบอกได้คำเดียวว่า เยอะแยะมากมายเลยทีเดียวเชียว ผมลองเช็คแล้วหล่ะครับ หนังสือทุกฉบับ ที่เอาสายวิชาบรมครูท่านมากล่าวถึง แทบไม่มีประวัติที่ลึกซึ้งอะไรมากมาย ไม่มีที่ไปที่มา ผมเชื่อครับว่าความจริงมีอะไรมากมายกว่านั้น อีกที่ไม่กล่าวถึง โพ่ด่อปิว ผมว่าที่ประสิทธิเมนี่จะเป็นที่แรก นะครับ ที่เอาประวัติท่านมาเล่า ก่อนใครแม้แต่จะมาทีหลังก็เหอะนะ บรมครูทั้ง๓ โพ่หมิ่นข้อง โพ่โพ่อ่อง โพ่ด่อปิว **จากซ้ายไปขวา ขอบคุณภาพจากสำนักพ่อครูสิทธา  ในเรื่องวิชาสายอาคมไสยศาสตร์ของเมืองพม่า เรียกว่า "เว๊กส่า" หรือ"ปิงญา" ที่แปลว่าความรู้อันสูงสุด เพราะทั้งสองคำนี้ แบบว่าความรู้นั่นเอง ในวิชาที่กล่าวมานี้ มีแตกแขนงอีกหลายสายมากมาย วันนี้เราจะมาพูดถึงวิชาที่มีบรมครูท่านหนึ่ง เป็นนักบวชประเภทนี้ด้วย คือท่าน "โปด่อปิว" ท่านเป็นนักบวชในนิกายอะยี หรือ อะรี/อะเยจี ในประเทศพม่าครับ                       ...

ฟ้าแจ้งแห่งพุกาม สวัสดีครับ ญาติสนิทมิตรสหาย ลูกศิษย์ลูกหา ตลอดทั้งเพื่อนที่ร่วมคิดมิตรร่วมใจ อารัมภบทมายาวเหยียด ถือว่าเป็ยออเดิ๊บ กาเดิ๊บๆ ของแอดมินเพจประสิทธิเม ที่ว่างจัดจนมีเวลามานั่งโม๊ในบล๊อกได้ดังประหนึ่งลั่นล๊าร่าเริงด้วยทำนองเพลง "ฟ้า ลุ่มอิรวดี คืนนี้มีแต่แมว แจ่มแสง วางแว่ว แง่วๆ แง๊วแงวแง่วแง่ว " ในเมืองหม่องกันเลยที่เดียว ก็แหง แหล่ะครับ ไม่รู้ว่าเราจะรุกหรือรับกับหน้าที่นี้ดี แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ทำเพราะผมจะรู้ข้อมูลก่อนเพื่อนชาวบล๊อกและชาวเพจ ไปยันจนชาวแฟสที่รู้จากผมที่หลัง ผมจะของเริ่มเนื่องสนุกปนชีวิตจริงอิงนิยายปานประหนึ่งว่าขายไม่ออกแล้วมาบอกให้ท่านฟังในตรงนี้ ไม่สิ ขายอิกครับ จัดว่าขายดีด้วยแหล่ะเพราะมีกระแสตอบรับกลับมาให้ชื่นมื่นตื่นใจกันหลายหน                 โปปาในหลายท่านอาจจะเข้าใจว่าที่นี่คือที่สิงสถิตของผีที่ปกปักรักษาชาวเมืองพม่าให้อยู่เย็นเป็นสุข มีหลายเรื่องที่โครตสลับซับซ้อน ซ่อนอยู่ในที่ตรงนั้น แบบปนเปกันหลายประการ ทั้งเรื่องความเชื่อ ศาสนา ไปยันการเมืองครับ พูดได้แค่นี้แหล่ะอุบไว้ก่อนเล่าหมด มันไม่หน...